“รถบรรทุก” เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ ผู้ประกอบการควรใส่ใจ และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของรถและตัวพนักงาน ด้วยการติดตั้ง GPS เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจทางใดทางหนึ่งในอนาคต
แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าการติดตั้ง GPS เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียด ไม่ใช่สิ่งที่นึกจะติดตั้งก็จะทำได้ทันที เพราะนอกจาก GPS จะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับกฎหมายด้วย ดังนั้นวันนี้เราเลยมีไอเดียดีๆ มาฝากผู้ประกอบการที่อยากจะติดตั้ง GPS แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี
รถบรรทุกแบบไหนบ้างที่ต้องติดตั้ง GPS ตามกฎหมาย
บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ประเทศไทยมีการบังคับใช้กฎหมายการติดตั้ง GPS ในรถบรรทุกด้วย โดยกรมการขนส่งทางบกได้กำหนดให้รถบรรทุกขนส่งบางประเภท ได้แก่ รถลากจูง รถบรรทุกขนาดใหญ่ (10 ล้อขึ้นไป) และรถขนส่งวัตถุอันตราย ที่จดทะเบียนใหม่ตั้งแต่ 25 มกราคม 2559 เป็นต้นไป ต้องติดตั้งติดตั้ง GPS พร้อมด้วยเครื่องรูดใบขับขี่แถบแม่เหล็ก เพื่อส่งข้อมูลการใช้งานรถ (ความเร็ว, ระยะเวลาในการขับขี่, พิกัดตำแหน่งรถ) และข้อมูลส่วนตัวของผู้ขับขี่ (ชื่อ-สกุล, เลขที่ใบขับขี่) ไปที่กรมการขนส่งทางบกแบบเรียลไทม์
ถ้าไม่ติดตั้ง GPS ในรถบรรทุก รถบรรทุกคันนั้นๆ ก็จะไม่สามารถต่อทะเบียนได้ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดจะโดนโทษปรับ แบ่งเป็นคนขับรถบรรทุกมีความผิดตาม พ.ร.บ. ขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ที่ว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยในการขนส่ง มีโทษปรับ 1,000 – 5,000 บาท ส่วนเจ้าของธุรกิจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ. ขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 โดนปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือถูกพักการใช้งาน หรือยกเลิกใบขับขี่รถบรรทุก
สำหรับสาเหตุที่รถบรรทุกติดตั้ง GPS ต้องส่งข้อมูลกลับไปยังกรมการขนส่งทางบก ก็เพื่อให้กรมฯ ติดตาม และประเมินการทำงานของรถและพนักงานขับคนนั้นๆ ได้อย่างทันท่วงที เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกฎหมาย และข้อบังคับอื่นๆ อีกมากมาย ดังนี้
- ห้ามให้ผู้ขับขี่รถบรรทุก ขับรถเร็วเกินกำหนด ต่อเนื่องเกิน 2 นาที
รถบรรทุกที่มีน้ำหนักรวมทั้งคันไม่เกิน 1,200 กก.
- ไม่เกิน 100 กม./ชม. สำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล
รถบรรทุก หรือรถลากจูงที่มีน้ำหนักรวมทั้งคันเกิน 1,200 กก.
- ไม่เกิน 45 กม./ชม. สำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล และไม่เกิน 60 กม./ชม. สำหรับนอกเขตพื้นที่ดังกล่าว
- ไม่เกิน 80 กม./ชม. สำหรับทางหลวงชนบท
How to เลือกและติดตั้ง GPS ในรถบรรทุก
ปัจจุบันมี GPS หลากหลายรุ่นที่สามารถติดตั้งในรถบรรทุก หรือรถลากจูงขนาดใหญ่ได้ เช่น SWR PRO, SW Plus, Container Tracking by DTC เป็นต้น
วิธีการเลือกและติดตั้ง GPS ที่ดีที่สุด คือ เลือก GPS ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานตรงกับความต้องการของเจ้าของธุรกิจ ซึ่งถูกผลิตและให้ติดตั้งโดยบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้ได้สินค้าและบริการที่มีคุณภาพ คุ้มค่ากับการจ่ายเงิน
ไอเดียติดตั้ง GPS ในรถบรรทุก
สำหรับไอเดียติดตั้ง GPS ภายในรถบรรทุก เจ้าของธุรกิจสามารถเลือกได้หลายวิธี เช่น
ติดตั้ง GPS บริเวณหน้าคอนโซลรถ
ถ้าจะมองหาสักจุดที่ติดตั้ง GPS แล้วจะไม่บดบังวิสัยทัศน์ในการขับขี่ คอนโซลรถคือทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะอยู่ต่ำกว่าระดับสายตา ทำให้พนักงานขับรถมองเห็นถนนได้เต็มสายตา
ติดตั้ง GPS บริเวณเหนือศีรษะคนขับ
จุดนี้ก็เป็นอีกจุดที่ไม่บังวิสัยทัศน์การขับขี่ แถมยังช่วยเพิ่มความสวยงามบริเวณคอนโซลได้ด้วย แต่อาจจะรูดใบขับขี่ได้ยากขึ้น
ติดตั้ง GPS บริเวณใกล้เกียร์
บริเวณใกล้เกียร์มักจะมีพื้นที่ว่างสำหรับใช้วางสิ่งของกระจุกกระจิดอยู่แล้ว ดังนั้นการติดตั้ง GPS ตรงนี้ จะเป็นการใช้พื้นที่ว่างให้เป็นประโยชน์ อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้ของกล่อง gps ได้อีกด้วย เพราะไม่ต้องโดนแดดส่องโดยตรง เหมือนการติดตั้งบริเวณคอลโซล
นี่เป็นเพียงไอเดียส่วนหนึ่งเท่านั้น เจ้าของกิจการสามารถเลือกติดตั้ง GPS ในบริเวณที่นอกเหนือจากนี้ได้ แต่ควรคำนึงถึงความสะดวกสบายในการใช้งานเป็นหลัก เพราะพนักงานต้องรูดใบขับขี่ก่อนใช้รถทุกครั้ง และ GPS ต้องใช้งานได้ดี จึงไม่ควรอยู่ห่างสายตาเกินไป เพื่อให้สังเกตเห็นความผิดปกติได้ทันเวลา